Music Collection

ตลอดเส้นทางอาชีพอันยาวนาน Johnny Cash ได้สวมบทบาท "บุรุษในชุดดำ" ผู้ถ่ายทอดบทเพลงแห่งความทุกข์และการไถ่บาป ซึ่งสะท้อนชีวิตของผู้คนนับล้าน แต่ไม่มีผลงานชิ้นใดที่จะกลั่นกรองแก่นแท้ของตัวตนเขาได้มากเท่ากับบทเพลงสุดท้ายในชีวิต อย่างเพลง Hurt ไม่ใช่แค่การแสดงอันทรงพลังของเขา แต่เป็นการถ่ายทอดชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชนบนบทเพลง และสิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ นี่คือเพลง cover ที่กลายเป็นผลงานสุดท้ายของเขา
การโคจรมาพบกันของโลกดนตรีต่างขั้ว: Hurt กับ Johnny Cash
ไม่มีใครคาดหวังว่า Johnny Cash จะเลือกเพลง Hurt มานำเสนอใหม่ เพราะต้นฉบับมาจากแนวเพลงที่ตรงข้ามกับตัวตนเขาโดยสิ้นเชิง
เพลง Hurt ในเวอร์ชันแรกเริ่ม
ก่อนจะกลายเป็นเพลงของ Johnny Cash เพลง Hurt เคยเป็นงานสุดหม่นของ Nine Inch Nails ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดในแบบอินดัสเทรียลร็อก
การร่วมงานของ Cash กับ Rick Rubin
โปรเจกต์ American Recordings ของ Cash เกิดขึ้นภายใต้การดูแลของ Rick Rubin ผู้มีวิสัยทัศน์ในการผสานดนตรีต่างแนวเข้าด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ
ปฏิกิริยาของ Trent Reznor
Reznor ยอมรับว่า “ดีใจแต่ก็กลัว” เพราะไม่แน่ใจว่าเพลงอินดัสเทรียลอย่าง Hurt จะถูกตีความใหม่ได้อย่างเหมาะสม
การตัดสินใจครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้นของการสร้างงานศิลปะที่ทั้งโลกต้องกล่าวถึง
การสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกและเบื้องหลังมิวสิกวิดีโอ
กว่าที่ MV Hurt จะออกมาสมบูรณ์แบบ ต้องผ่านอุปสรรคมากมายที่ท้าทายทั้งทีมงานและตัว Cash เอง
ผู้กำกับที่เปี่ยมด้วยศรัทธา
ทันทีที่ได้ยินเพลง Hurt ผู้กำกับ Romanek ก็รู้ว่าเป็นโอกาสที่จะสร้างงานชิ้นมาสเตอร์พีซ
การถ่ายทำที่อยู่บนเส้นด้าย
ทุกฉากใน MV ถูกบันทึกท่ามกลางความกดดันด้านสุขภาพและเวลาที่จำกัด
- อาการป่วยของ Cash: เขาอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ จนทีมงานต้องปรับรูปแบบการถ่ายทำ
- ความไม่สะดวกด้านสภาพอากาศ: อากาศหนาวเป็นอุปสรรคต่อการถ่ายทำของ Cash
- ถ่ายทำต้องจบไว: ไม่มีเวลาให้แก้ตัวหรือถ่ายซ้ำมากนัก
ฉากหลังที่บอกเล่าเรื่องราวของ Cash
ความพังของสถานที่ถ่ายทำ กลายเป็นสัญลักษณ์สะท้อนการเดินทางของ Cash ได้ดีที่สุด
Romanek เล่าว่า “สถานที่ที่เสื่อมโทรมแห่งนี้ทำให้ผมเห็นภาพว่า ต้องเล่าเรื่องของ Johnny แบบตรงไปตรงมาที่สุด เหมือนที่เขาเคยถ่ายทอดผ่าน กีตาร์โปร่ง ของเขาเสมอมา”
ในตอนนั้น Romanek ตระหนักว่าพิพิธภัณฑ์ที่เสื่อมโทรมไม่ใช่ข้อจำกัด แต่เป็นอัตลักษณ์ที่มีชีวิตสำหรับแก่นเรื่องของบทเพลง ทั้งความตาย ชื่อเสียง และความทรงจำ
พลังของภาพและสัญลักษณ์ใน MV Hurt
MV Hurt ใช้สัญลักษณ์จำนวนมากในการเล่าเรื่องชีวิตและความตายของ Johnny Cash อย่างลึกซึ้ง
ภาพที่เล่าเรื่องแทนคำพูดทั้งหมด
- โต๊ะอาหารที่บ่งบอกถึงความมั่งคั่งแต่แฝงความว่างเปล่า
- การตัดสลับวิดีโออดีตและปัจจุบันสร้างความสะเทือนใจอย่างมาก
- รางวัลแพลตตินัมที่ถูกทิ้งตอกย้ำความผุพังของชื่อเสียงในอดีต
- ภาพฝาเปียโนค่อย ๆ ทิ้งตัวลงคือการปิดม่านชีวิตของ Cash
อิทธิพลลึกซึ้งที่ส่งถึงคนในวงการดนตรี
ทั้ง Rubin และ Reznor ต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า MV นี้สะเทือนใจจนทำให้พวกเขาน้ำตาซึมเมื่อได้เห็นความจริงที่ Cash ถ่ายทอดออกมา
จากเดิมที่ลังเล Reznor กลับซาบซึ้งอย่างที่สุด พร้อมประกาศว่า Hurt “กลายเป็นของ Cash ไปโดยสิ้นเชิง”
เรื่องจริงที่เจ็บปวดหลังการถ่ายทำ Hurt
สิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังทำให้หลายคนขนลุก เพราะมันสอดคล้องกับเนื้อหา Hurt ราวกับเป็นลางบอกเหตุ
- การจากไปของ June Carter Cash: เพียง 3 เดือนหลังจากถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเสร็จสิ้น June Carter Cash ภรรยาสุดที่รักของ Johnny ก็ได้เสียชีวิตลง
- การจากลา: Cash ลาโลกในวันที่ 12 กันยายน 2003 หลังสูญเสียภรรยา
- โศกนาฏกรรมซ้ำ: บ้านที่ Cash อาศัยกว่า 30 ปีถูกไฟเผา
บทส่งท้ายที่อยู่เหนือกาลเวลา
เวอร์ชันของ Cash ได้ยกระดับ "Hurt" ให้กลายเป็นมากกว่าเพลงคัฟเวอร์ แต่มันคือคำสั่งลาจากศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ ความจริงใจและความเปราะบางในเสียงร้องของเขากลายเป็นบทส่งท้ายที่เฉียบคมของ “บุรุษในชุดดำ”
บทเพลงนี้จารึกชื่อ Cash ไว้ในประวัติศาสตร์อีกครั้ง มันกลายเป็นสะพานที่เชื่อมคนฟังหลายยุคเข้าหากันผ่านความจริงใจในเสียงร้องของเขา
ข้อมูลอ้างอิง
- How Johnny Cash Changed Music
- The Sad Story Behind Johnny Cash’s Hurt
- สารคดี | Johnny Cash "บุรุษชุดดำ ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่????????|คันทรี่ผู้ยิ่งใหญ่"[????????????????????????????????-????????]